bridle ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร
ความหมายของคำว่า bridle ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ bridle ใน ภาษาอังกฤษ
คำว่า bridle ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง บังเหียน, ควบคุม, สายบังเหียน หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง
ความหมายของคำว่า bridle
บังเหียนverbnoun First, the trainer must introduce the horse to a bridle, which is no easy task. ประการ แรก ครู ฝึก ต้อง ทํา ให้ ม้า รู้ จัก บังเหียน ซึ่ง ไม่ ใช่ งาน ง่าย. |
ควบคุมverb What will help us to bridle our tongue? อะไรจะช่วยเราให้ควบคุมคําพูดของเรา? |
สายบังเหียนnoun |
ดูตัวอย่างเพิ่มเติม
He overcame the world; that is, he bridled every passion and has risen above the carnal and sensual plane so that he lived and walked as guided by the Spirit. พระองค์ทรงเอาชนะโลก กล่าวคือ พระองค์ทรงหักห้ามความลุ่มหลงทั้งหมดและทรงอยู่เหนือตัณหาและราคจริตทั้งนี้เพื่อพระองค์จะทรงดําเนินพระชนม์ชีพและดําเนินตามการนําทางของพระวิญญาณ |
James says: “If anyone does not stumble in word, this one is a perfect man, able to bridle also his whole body.” ยาโกโบ กล่าว ว่า “ถ้า ผู้ ใด ไม่ พลาด พลั้ง ใน วาจา ผู้ นั้น ก็ เป็น คน สมบูรณ์ สามารถ เหนี่ยว รั้ง ทั้ง ร่าง กาย ของ ตน ได้ ด้วย.” |
If anyone does not stumble in word, this one is a perfect man, able to bridle also his whole body.” ถ้า ผู้ ใด ไม่ พลาด พลั้ง ใน วาจา ผู้ นั้น ก็ เป็น คน สมบูรณ์ สามารถ เหนี่ยว รั้ง ทั้ง ร่าง กาย ของ ตน ได้ ด้วย.” |
In his counsel on the use of the tongue, Jesus’ half brother James said: “If anyone does not stumble in word, this one is a perfect man, able to bridle also his whole body.” ใน คํา แนะ นํา เรื่อง การ ใช้ ลิ้น ยาโกโบ น้อง ชาย ร่วม มารดา ของ พระ เยซู กล่าว ว่า “ถ้า ผู้ ใด ไม่ พลาด พลั้ง ใน วาจา ผู้ นั้น ก็ เป็น คน สมบูรณ์ สามารถ เหนี่ยว รั้ง ทั้ง ร่าง กาย ของ ตน ได้ ด้วย.” |
The Bible acknowledges that “we all stumble many times,” adding: “If anyone does not stumble in word, this one is a perfect man, able to bridle also his whole body.” คัมภีร์ ไบเบิล ยอม รับ ว่า “เรา ทุก คน ต่าง ก็ พลาด พลั้ง กัน หลาย ครั้ง” และ เสริม ว่า “ถ้า ผู้ ใด ไม่ พลาด พลั้ง ใน วาจา ผู้ นั้น ก็ เป็น คน สมบูรณ์ สามารถ เหนี่ยว รั้ง ทั้ง ร่าง กาย ของ ตน ได้ ด้วย.” |
3 A whip is for the horse, a bridle is for the donkey,+ 3 แส้ มี ไว้ สําหรับ ม้า บังเหียน มี ไว้ สําหรับ ลา+ |
3:8) What can help us to bridle this body member that is so difficult to control? 3:8) อะไร จะ ช่วย เรา ให้ ควบคุม อวัยวะ ที่ ยาก จะ ควบคุม นี้ ได้? |
“Bridle all your passions” (Alma 38:12). “หักห้ามความลุ่มหลงทั้งปวงของท่าน” (แอลมา 38:12) |
The Bible states: “If any man seems to himself to be a formal worshiper and yet does not bridle his tongue, but goes on deceiving his own heart, this man’s form of worship is futile.” คัมภีร์ ไบเบิล กล่าว ว่า “ถ้า ผู้ ใด ถือ ว่า ตน เป็น ผู้ นมัสการ ตาม แบบ แผน และ กระนั้น มิ ได้ เหนี่ยว รั้ง ลิ้น ของ ตน แต่ ยัง คง หลอก ลวง หัวใจ ของ ตัว เอง อยู่ ต่อ ไป การ นมัสการ แบบ ที่ ผู้ นี้ ได้ กระทํา ก็ ไร้ ประโยชน์.” (ยาโกโบ 1:26, ล. ม. |
The formal worship of the man that does not bridle his tongue is futile, but “the form of worship that is clean and undefiled from the standpoint of our God and Father is this: to look after orphans and widows in their tribulation, and to keep oneself without spot from the world.” —1:17, 18, 22, 25, 27. การ นมัสการ ตาม แบบ แผน ของ คน ที่ ไม่ เหนี่ยว รั้ง ลิ้น ของ ตน นั้น ไร้ ค่า แต่ “แบบ แห่ง การ นมัสการ ที่ สะอาด และ ปราศจาก มลทิน จาก ทัศนะ ของ พระเจ้า และ พระ บิดา ของ เรา เป็น ดัง นี้: ให้ เอา ใจ ใส่ ดู แล ลูก กําพร้า และ หญิง ม่าย ใน ความ ทุกข์ ยาก ของ เขา และ รักษา ตัว ให้ ปราศจาก ด่าง พร้อย ของ โลก.”—1:17, 18, 22, 25, 27, ล. ม. |
He wrote: “If any man seems to himself to be a formal worshiper [“to be ‘religious,’” Phillips] and yet does not bridle his tongue, but goes on deceiving his own heart, this man’s form of worship [“religion,” Phillips] is futile. ท่าน เขียน ว่า “ถ้า ผู้ ใด ถือ ว่า ตน เป็น ผู้ นมัสการ ตาม แบบ แผน [“เป็น คน มี ศาสนา”, ฟิลลิปส์] และ กระนั้น มิ ได้ เหนี่ยว รั้ง ลิ้น ของ ตน แต่ ยัง คง หลอก ลวง หัวใจ ของ ตัว เอง อยู่ ต่อ ไป การ นมัสการ [“ศาสนา”, ฟิลลิปส์] แบบ ที่ ผู้ นี้ ได้ กระทํา ก็ ไร้ ประโยชน์. |
Solomon’s father, King David, alluded to the importance of the bridle when he wrote: “Do not make yourselves like a horse or mule without understanding, whose spiritedness is to be curbed even by bridle or halter.” กษัตริย์ ดาวิด พระ ราชบิดา ของ ซะโลโม กล่าว พาด พิง ถึง ความ สําคัญ ของ บังเหียน เมื่อ ท่าน เขียน ว่า “ท่าน ทั้ง หลาย อย่า เป็น เหมือน ม้า, หรือ ลา, ที่ หา ปัญญา มิ ได้; ต้อง คอย ชัก บังเหียน และ เอา สาย ผ่า ปาก ไว้.” |
If anyone does not stumble in word, this one is a perfect man, able to bridle also his whole body. . . . ถ้า ผู้ ใด ไม่ พลาด พลั้ง ใน วาจา ผู้ นั้น ก็ เป็น คน สมบูรณ์ สามารถ เหนี่ยว รั้ง ทั้ง ร่าง กาย ของ ตน ได้ ด้วย . . . . |
“If anyone does not stumble in word,” wrote the disciple James, “this one is a perfect man, able to bridle also his whole body.” “ถ้า ผู้ ใด ไม่ พลาด พลั้ง ทาง วาจา เลย ผู้ นั้น ก็ เป็น คน สมบูรณ์ สามารถ ควบคุม ร่าง กาย ได้ ทุก ส่วน.” |
As the winepress is trodden outside the city, blood comes up as high as the bridles of the horses, “for a distance of a thousand six hundred furlongs” (about 184 miles) [296 km]. —14:3, 4, 6-8, 14, 19, 20. ขณะ ที่ บ่อ ย่ํา องุ่น ถูก ย่ํา อยู่ ภาย นอก เมือง โลหิต ก็ ไหล ออก มา สูง ถึง บังเหียน ม้า “เป็น ระยะ ทาง ถึง หนึ่ง พัน หก ร้อย สตาดิอน.” (ประมาณ 296 กิโลเมตร).—14:3, 4, 6-8, 14, 19, 20, ล. ม. |
After all, bridles and bits make horses go where we direct, and by means of a small rudder, even a large boat driven by hard winds can be steered as the helmsman wishes. ถึง กระนั้น ก็ ตาม บังเหียน และ ที่ ใส่ ปาก ม้า ทํา ให้ ม้า ไป ใน ทิศ ทาง ที่ เรา บังคับ และ ด้วย หาง เสือ อัน เล็ก ๆ แม้ แต่ เรือ ใหญ่ ที่ ขับ โดย ลม แรง ก็ ยัง บังคับ ให้ แล่น ได้ อย่าง ที่ นาย ท้าย เรือ ปรารถนา. |
And the peoples will have a bridle in their jaws+ that leads them astray. และ พระองค์ จะ ใส่ บังเหียน ที่ ปาก+ของ ชน ชาติ เหล่า นี้ เพื่อ จูง เขา ไป สู่ ความ พินาศ |
(1 Corinthians 4:4) One serious flaw may be failure to ‘bridle the tongue.’ (1 โกรินโธ 4:4) ข้อ บกพร่อง ร้ายแรง อย่าง หนึ่ง อาจ ได้ แก่ การ มิ ได้ “เหนี่ยว รั้ง ลิ้น.” |
Whoa! Somebody's auctioning off a jeweled ostrich bridle! เฮ้ย มีคนเอาบังเหียนนกกระจอกเทศฝังเพชรขึ้นประมูลบนเน็ตแน่ะ |
And the winepress was trodden outside the city, and blood came out of the winepress as high up as the bridles of the horses, for a distance of a thousand six hundred furlongs.” แล้ว ผล องุ่น ก็ ถูก ย่ํา ภาย นอก เมือง เลือด ที่ ไหล ออก จาก บ่อ ย่ํา องุ่น นั้น สูง ถึง บังเหียน ม้า และ ไหล ไป ไกล หนึ่ง พัน หก ร้อย สตาดิอน.” |
(James 3:5-12) Compared to a horse, a bridle is small; so is a rudder in comparison with a ship. (ยาโกโบ 3:5-12, ล. ม.) เมื่อ เทียบ กับ ม้า แล้ว บังเหียน ก็ เล็ก นิด เดียว; หาง เสือ เมื่อ เทียบ กับ เรือ ก็ เช่น เดียว กัน. |
• Why is the tongue difficult to bridle? • เหตุ ใด จึง ยาก ที่ จะ ควบคุม ลิ้น? |
As a bridle controls a horse’s body and a small rudder a large boat, so that little member, the tongue, has great power. เช่น เดียว กับ สาย บังเหียน ที่ ควบคุม ม้า และ หาง เสือ เล็ก ๆ ควบคุม เรือ ใหญ่ ลิ้น ซึ่ง เป็น อวัยวะ เล็ก ๆ ก็ มี อํานาจ มาก เหมือน กัน. |
Bridling the Horse and the Tongue การ ควบคุม ม้า และ ลิ้น |
The river of blood from the winepress is very deep, up to the bridles of the horses, and it extends for a distance of 1,600 furlongs. แม่น้ํา เลือด ที่ ไหล จาก บ่อ ย่ํา องุ่น นั้น ลึก มาก สูง ถึง บังเหียน ม้า และ ไหล ออก ไป เป็น ระยะ ทาง 1,600 สตาดิอน. |
มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ
ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ bridle ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ
คำที่เกี่ยวข้องของ bridle
อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ
คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม
ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว